วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การตลาดศิลปะ

ไปอ่านเจอ blog ของรุ่นพี่ แล้วเค้าเขียนประมาณว่า
รู้สึกผิดที่เลือกเรียนเรียนในสิ่งที่ชอบ
เหมือนว่าจะบั่นทอนความหลงไหลของมันลงไป
เหมือนว่าไม่ได้เรียนศิลปะ แต่เรียนการตลาดศิลปะมากกว่า

แล้วรู้สึกจริงยังไงก็ไม่รู้ ชอบมากๆ
ตอนเด็ก ๆ ได้ปลดปล่อยจินตนาการอย่างเต็มที่
อยากวาด หรืออยากทำอะไรก็ตามโดยไร้เหตุผล
ไร้ที่มา ไม่มี target group ไม่มีว่าต้องเพื่อใครทำไปทำไม
แค่รู้สึกว่าได้ทำแล้ว พอเห็นมันเสร็จ ก็จะมีความสุขจังเลย

แต่ในทุก ๆ วันนี้ เราเรียนเพื่อดำรงชีวิต
เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เพื่อพัฒนาความคิด
ถ้าไม่เรียนเพื่อการตลาด ก็จะไม่มีเงินใช้จ่าย
ซึ่งกลายเป็นตัวควบคุมปัจจัย 4 ของเราไปซะแล้ว

บางทีสิ่งที่เราคิด ที่เราอยากทำในจินตนาการของเรา
ก็ถูกจำกัดกับคณะที่ใคร ๆ ก็คิดว่า โคตรจะอิสระ
เพียงเพราะว่า ทำไปทำไม ?

5555555 เออ ไม่ใช่อะไร จริง ๆ แล้วโง่เองคิดอะไรไม่ค่อยจะออก
ก็คณะนี้มันเรียนการสื่อสารนี่หน่า ต้องสื่อสารแก่ทุกคน
ไม่ใช่แก่ตนเองคนเดียว แต่บางทีรู้สึกอยากทำงานที่เราได้ใส่
ความสุขลงไปเต็มที่ อยากจะทำงี๊ๆๆๆ
ปราศจากเหตุผล แต่ล้วนมาจากจิตใจ...

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

อภิรักษ์ ที่ไม่ใช่นักการเมือง

ได้ดูตีสิบ
อภิรักษ์ หนุ่มเก็บขยะ วัย 33 เก็บเงินวันละ 20 บาท 16 ปี ให้แม่ไปผ่าตัด

น่าทึ่งจริง ๆ กับคนนี้ ชอบมาก ขวัญใจเลยอะ

และก็น่าขายหน้าจริง ๆ ที่ไอ่เราคนมีการศึกษามาจนปี 4
คิดที่จะทำไม่ได้สักครึ่งนึงของเค้าเลย

วันนึงได้เงินจากการเก็บขยะ 50 บาท แบ่งไว้ 20 เพื่อใส่ธนาคาร
แล้วก็กิน 30 บาทหรือวันไหนเหลือ 4 บาท
ก็มีค่าสำหรับเค้ามาก ก็ยังเอาไปใส่ธนาคารอยู่ดี

แล้วเราอะ กินข้าวกลางวันจานละ 25 น้ำอีก 15 ขนมอีก...
เงินเหลือทำยังไง ซื้อเสื้อผ้าๆๆๆ ไม่ได้มองถึงคนข้างหลังเลย
ว่าวันนึง ถ้าพ่อหรือแม่ต้องการเงินรักษา
เราจะมีให้เค้าบ้างมั๊ยเนี่ยเพราะทุกวันนี้
ยังแบมือขอเค้าใช้อยู่เลย เราก็ประหยัดนะ
แต่ประหยัดเพื่อของอื่นที่กำลังอยากได้อยู่
ไม่รู้เรียกว่าช่วยป่าวของที่อยากมีก็เก็บตังซื้อเองทั้งนั้น
เพียงแต่ไม่ได้ทำงานหาเงินมาเก็บเอง

แต่ทำไมไม่เก็บ อดออม ทั้ง ๆ ที่เสื้อบางตัวซื้อมา 100
ส่ไม่ได้ ไม่กล้าใส่แต่ก็ซื้อมา...

ค่าของเงิน 100 นึง ของอภิรักษ์ กับเรา มันต่างกันมาก
แต่ในทางกลับกัน อภิรักษ์มีเงินเก็บในธนาคาร
มากกว่าเราหลายเท่าเลยอะ เจ๋งชะมัด

อภิรักษ์เป็นต้นแบบ ต่อไปเราจะเห็นคุณค่าของเงินให้มาก ๆ
สุดยอดไปเลย !!!
(ที่เราเป็นอะ ไม่ใช่ขี้งกนะเรื่องจิง แต่เราประหยัด ซีเรียสๆๆ)

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทางด่วนไปสุวรรณภูมิ

ไปรับแม่มาจากสุวรรณภูมิ
ไม่รู้ไปเอะใจอะไรกับ ทางด่วนที่จะไปสุวรรณภูมิ
มันจะมีโค้งสุดท้ายก่อนถึง terminal ผู้โดยสาร

ไม่รู้ว่าทำไมต้องไปโค้งอ้อมขนาดนั้น
เหมือนหลบอะไรสักอย่าง
แต่มันเหมือนวนให้เราชมสวนที่เค้าปลูกมากกว่า

ก็นั่งพูดฮา ๆ กับพี่ เหมือนว่า
" เรามาชมสวนก่อนนะคับบบบบบบ ขอให้ทุกคนที่กำลังร้อนใจ
และรีบบบบกัน ทำใจให้เย็น ๆ วนชมสวนกันให้อารมณ์เย็นขึ้นก่อน
แล้วค่อยรีบไปขึ้นเครื่องกันนนนะคับบบ "

ใครเคยนั่ง ngv มามหาลัยสมัยก่อนจะรู้ว่า
โอ๊ยยย มหาลัยแค่เอื้อมอะแต่ต้องมาเลี้ยวเข้าปั๊ม
เพื่อเติมแก๊สก่อนตลอด จะเซ็งมาก ๆ

นี่ก็เหมือนกัน ไม่รู้ว่า จะให้ไปอ้อมทำไม
ตอนแรกก็มอง ๆ หรือว่า มันจะไม่พ้นกับทางด่วนด้านล่าง
เลยต้องอ้อมมาไกล ๆ
ก็น่าจะมีทางแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้นะ

เหมือนการบวกเลขที่อาจารย์พูด 5x2=10
กับ (5x5X5)-115=10

อยู่ที่เราเลือกวิธีที่จะใช้แก้ ยังไงผลลัพท์ก็เท่ากัน
ต้องเลือกวิธีที่เหมาะกับคำตอบที่เราต้องการด้วย
แต่อย่างทางด่วนโค้งนี้ เอาแบบ 5+5 ก็น่าจะได้มั๊ง ?

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เพื่อแม่

นั่งทำความสะอาดคอนโดเพื่อต้อนรับแม่
ทำตั้งแต่คืนวันเสาร์ยัน 7 โมงวันอาทิตย์
แล้วก็ตื่นบ่ายโมง มาทำต่อจนถึง 8 โมงวันจันทร์

เฮ๊ย นั่นคอนโดหรือบ้านร้าง 55555

มีคำพูดเดียวเลยที่ทำให้มีแรงฮึดสู้ขนาดนี้
ทำไปก็พูดแค่ " เพื่อแม่ๆๆๆๆ "
แขนไม่มีแรงจะยก ขาไม่มีแรงจะยืน
อนึกขึ้นได้ว่า เพื่อแม่

ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน ทำๆๆๆๆ
จนแม่มา ร่างกายที่บอกว่าวัยรุ่น ก็ปวดหลังได้เหมือนกันนะ
ปวดทั้งแขน ทั้งขา มือจะบีบแขนที่ปวดก็ไม่มีแรง

เพื่อแม่คนเดียวเลยนะเนี่ยยยยยย

ขอแค่มีแรงบันดาลใจ ไม่ว่าอะไร ก็ต้องทำได้ !
ไม่มีคำว่าไม่ได้ ต้องได้ ต้องได้

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไข้หวัด 2009

ได้ฟังมาจาก วิทยุ แล้วก็เห็นด้วยอย่างมาก !!!

ตอนนี้คนที่ไม่ป่วย กลับใส่หน้ากาก เพราะกลัวจะเป็น
แต่คนป่วยกลับทิ้งหน้ากาก เพราะว่าก็กูเป็นแล้วอะ
จะใส่ป้องกันอะไรวะ

เออ เชื้อมันถึงไม่หาย ไม่หยุดแพร่กระจายอยู่นี่ไง
เหมือนหน้ากากสร้างมาผิด group target เนอะ
หรือ group target เข้าใจผิด ใช้แล้วไม่ก่อประโยชน์

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เนื้อคู่ประตูถัดไป

ติดซิดคอมนี้มากกก ไม่น่าจบกะทันหันเลย

อยากให้มีคนชอบผลงานที่เราทำแล้วรอติดตาม
เหมือนที่เรากำลังติดตามอีเนื้อคู่นี้จัง
55555555555555555555
อยากทำ animation ที่ให้คนมาคอยติดตามแบบนี้บ้าง
ก็ฝัน ๆ กันไป 5555555
เวลาเครียดปัญญามักไม่เกิด
ต้องหาแรงบันดาลใจจากความสนุกสนาน
อะไรของเราวะ 5555555

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ของ copy

ใครเคยกินก๊วยเตี๋ยวต้มยำ แถวลาดพร้าวซอย 1 มั่ง ?
อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก
เคยไปลองกินร้านที่มาเปิดข้าง ๆ กับต้นตำรับ
แต่เข้มข้นไม่เท่าอะ

ไม่รู้ว่า copy มารึเปล่า
แต่ก็เจ๋งดีกล้าที่จะ copy
แถมยังเปิดข้าง ๆ วัดกันไปเลยอีกตะหาก 5555

ยังไง ของแท้ ก็ อร่อยกว่า ของปลอม
หรือเราอคตินะ ?

แต่อร่อยจริง ไปกินสิ..

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Jackson's Skin

อึ้ง !
ไม่น่าเชื่อว่าเราจะตกหลุมพรางจากสื่อ จะไม่น่าเชื่อไงวะ 555
ปกติ สื่อเขียนอะไรมา เราก็เชื่อๆๆตลอด บ้าไปแล้ว

เคยเชื่อมาตลอดว่า MJ ฉีดยาเปลี่ยนสีผิวเพราะอยากขาว
ฉีดยาฆ่าเมลานิน เออ เป็นเยอะนะเราอะ
(แต่ไม่ว่าไง เค้าก็เป็น icon เราเสมอมานะ
แค่นี้ลบความสามารถ mj ไม่ได้หรอก)

ตกเป็นเหยื่อของสื่อ

พึ่งมาทราบตอนนี้เองว่า MJ เป็นโรคด่างขาว vitiligo T.T
แถมเค้ายังบอกอีกว่า เค้าภูมิใจมากที่เค้าเป็นคนผิวดำ
ภูมิใจที่เป็นตัวเค้าเอง โอ้ยยยยยยยยย T.T

ทำไมไมเคิลต้องโดนทำร้ายจากคนรอบข้างแบบนี้
ทั้งที่เค้าอยากสร้างความสุขให้พวกเรา
และเต็มที่กับทุกการแสดงขนาดนี้ โอ้ยยย มากมายอะะะ

อย่าหลงเชื่อสื่อซะหมด ควรชั่งน้ำหนักความน่าจะเป็นก่อนจะเชื่ออะไร
ไม่งั้น เราเองก็เหมือนเป็นคนทำร้ายไมเคิลทางอ้อมเลยนะเนี่ยยยย
เสียใจอะะะะะะ

ไอ่ที่ว่า ไม่มีมูล เค้าก็ไม่เอามาพูดหรอก
แต่ไอ่มูลนี้อะ คือเค้าเป็นโรคด่างขาวไง เค้าถึงต้องศัลยกรรม
เค้าเองก็พยายามที่จะปกปิดด้วยรองพื้นแล้วอะ

ไม่รู้แหละ ยังไง MICHAEL JACKSON นี่แหละ สุดยอด !